"ฆ่าก่อน รายงานทีหลัง" หรือ
"ประหารก่อน รายงานทีหลัง" (
จีน: 先斬後奏;
พินอิน: xiānzhǎnhòuzòu, เซียนฉ่านโฮ่วโจ้ว;
อังกฤษ: kill first, report later) เป็น
สำนวนจีน ใช้อุปมาอุปไมยถึงการที่ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่ใดให้ลุล่วงไปก่อนแล้วจึงค่อยรายงานผลต่อผู้บังคับบัญชาทีหลังที่มาของสำนวนนี้ ว่ากันไว้สองทาง ทางแรกว่าในสมัย
ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ในวันที่ขุนนาง
ตงซวน (
พินอิน: Dong Xuan) ได้เข้ารับตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการ
นครลั่วหยาง เมืองหลวงของประเทศจีนในสมัยนั้น เขาพบว่ามีคดีหนึ่งค้างอยู่ในศาลซึ่งที่ผ่านมาไม่มีทางจะลุล่วงได้ โดยคดีมีว่าข้าราชบริพารคนหนึ่งของพระราชธิดาหูหยาง เป็นคนหยาบช้าและได้กระทำ
ฆาตกรรมขึ้น แต่ไม่มีผู้ได้กล้าลงโทษเพราะเกรงพระราชหฤทัยและอิทธิพลของพระราชธิดา ขุนนางตงซวนนั้นเป็นคนใจซื่อมือสะอาด ไม่เกรงกลัวอิทธิพลของผู้ใด จึงสั่งให้ตำรวจไปจับกุมข้าราชบริพารผู้นั้นขณะที่โดยเสด็จพระราชธิดา และสั่งลงโทษประหารชีวิตทันที พระราชธิดาทรงพระพิโรธ เสด็จไปกราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้มีรับสั่งประหารขุนนางตงซวน ขุนนางตงซวนได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทและกราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับคดี ซึ่งเมื่อ
สมเด็จพระจักรพรรดิได้ทรงสดับแล้วเห็นว่าการกระทำของขุนนางตงซวนมิได้เป็นผิดเป็นโทษแต่อย่างใด ก็มิได้ทรงเอาโทษ เป็นที่มาของสำนวนว่า "ฆ่าก่อน รายงานทีหลัง"อีกทางหนึ่งเกี่ยวข้องกับ
เปาบุ้นจิ้นในสมัย
ราชวงศ์ซ่ง ซึ่งมีที่มาจากวรรณกรรมจีนเกี่ยวกับเปาบุ้นจิ้นเรื่อง "
เจ็ดผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม" โดยกล่าวว่าเปาบุ้นจิ้นได้รับพระราชทานชุดเครื่องประหารจากสมเด็จพระจักรพรรดิ ประกอบด้วยโดยทรงให้เปาบุ้นจิ้นมี
อาญาสิทธิ์ คือ สิทธิที่จะใช้เครื่องประหารทั้งสี่ประหารผู้กระทำผิดได้ทันทีโดยไม่ต้องขอพระราชทานพระราชานุญาตก่อนตามธรรมเนียมปฏิบัติ แต่เมื่อสั่งประหารผู้ใดแล้วให้ทูลถวายรายงานคดีด้วย ในวรรณกรรมอีกชุดหนึ่งก็ว่าอาญาสิทธิ์ดังกล่าวของเปาบุ้นจิ้นนั้นได้มาจากการที่ได้รับพระราชทาน
กระบี่อาญาสิทธิ์ ทั้งนี้ เป็นที่มาอีกแห่งหนึ่งของสำนวนว่า "ฆ่าก่อน รายงานทีหลัง"